เวอร์ชันเต็ม: [-- บรรยายธรรมครั้งที่ ๔ ในงานบำเพ็ญกุศลพระอธิการร้อง วชิรโชโต --]

วัดแก่งกระจาน -> ค่ายและอบรมศีลธรรมทั่วไป -> บรรยายธรรมครั้งที่ ๔ ในงานบำเพ็ญกุศลพระอธิการร้อง วชิรโชโต [สั่งพิมพ์] เข้าสู่ระบบ -> ลงทะเบียน -> ตอบกลับ -> ตั้งกระทู้

watkaeng 20-09-2014 17:01

บรรยายธรรมครั้งที่ ๔ ในงานบำเพ็ญกุศลพระอธิการร้อง วชิรโชโต

[attachment=10795]

บรรยายธรรมที่วัดหนองเอื้อง เนื่องในงานบำเพ็ญกุศลพระอธิการร้อง วชิรโชโตในค่ำคืนวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๗ นับเป็นคืนที่ ๓๐ แล้วสำหรับการบำเพ็ญกุศลนี้คืนนี้มองคนบางตาไปนิด พระสงฆ์ที่มาก็มีพระครูอุปถัมภ์วัชรกิจ พระครูวิจักษ์วัชรธรรม พระครูสุมนวัชรกิจ(มาประจำ..เพราะอยู่ไกล เอ๊ะ..ยังไง)อาจจะเป็นเพราะฝนพรำตลอดวัน
……ได้บรรยายธรรมเรื่อง....
"ความโกรธ"
ความโกรธเป็นอกุศลมูล(รากเหง้าแห่งความโง่) กิเลสกองหนึ่งที่อยู่ในใจของเรา ทำให้อยากผลักออก อยากทำลาย เป็นความพลุ่งพล่านแห่งจิต ส่งผลกระทบต่อบรรยายกาศรอบข้าง บุคคลใกล้เคียง แล้วส่งไปถึงภพชาติหน้า โดยเริ่มต้นอย่างแผ่วเบาในใจที่เรียกว่า อรติ ความไม่ชอบใจ ขยายไปเป็นปฏิฆะ ความขัดเคืองใน โกรธะ ความโกรธ แล้วพุ่งออกไปข้างนอกทางวาจา ทางกาย คือโทสะ การประทุษร้าย ทำลายบุคคล สิ่งของแล้วยังส่งต่อไปเป็น พยาบาท ผูกเวร ข้ามภพชาติ ถ้าเราไม่รู้ธรรมะเพราะการฟังธรรมหรือปฏิบัติธรรม หรือมีบัณฑิตค่อยชี้แนะ เราก็ไม่ได้สติปัญญา ระลึกรู้เหตุ เภทภัย ป้องกัน ทำลายความโกรธได้ ทำให้ชีวิตส่วนตัวไม่มีความสุข ส่วนสังคมก็เสียหาย ย่อยยับกลายเป็นเวรกรรมโศกนาฏกรรมข้ามภพชาติ เหมือนเรื่องที่ปรากฏอยู่ในสุรีวะชาดก ที่สุรีวะพ่อค้าโกงผูกเวรกับพระโพธิสัตว์ด้วยเหตุเพียงน้อยนิด แล้วถูกจองจำอยู่กับความพยาบาท ผูกเวร ข้ามภพชาติทำลายพระโพธิสัตว์ผู้ไม่ทำลายตอบ จึงมีนรกอเวจีเป็นที่ไป
ฉะนั้นผู้มีธรรมะ สติ และปัญญา พึงระวัง เร่งระงับความโกรธแต่ยังอ่อน ๆ ตั้งอยู่ ยังเป็นอรติ ปฏิฆะ โกรธ อย่าให้หลุดออกไปข้างนอกเป็น โทสะและพยาบาท แบบผูกเวรไม่เผาศพ เผาผีกัน การฟังธรรม การปฏิบัติธรรม การรู้ธรรมก็เพื่อจุดประสงค์นี้คือระงับดับกิเลส เหตุแห่งทุกข์


เวอร์ชันเต็ม: [-- บรรยายธรรมครั้งที่ ๔ ในงานบำเพ็ญกุศลพระอธิการร้อง วชิรโชโต --] [-- top --]


Powered by phpwind v8.7 Code ©2003-2011 phpwind
Time 0.026753 second(s),query:1 Gzip enabled