คนครองเรือน แยกได้เป็นหลายประเภทจัดเป็นขั้น ๆ ได้ทั้งแต่ร้ายไปถึงดี และที่ดีก็มีหลายระดับ คฤหัสถ์ที่ดีน่าเคารพนับถือแท้จริง คือ ประเภทที่ ๑๐ ใน ชาวบ้าน ๑๐ ประเภทต่อไปนี้
กลุ่มที่ ๑ หาทรัพย์โดยทางไม่ชอบธรรม
๑. ได้ทรัพย์มาแล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ทั้งไม่เผื่อแผ่แบ่งปัน และไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสียทั้ง ๓ ส่วน)
๒. ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข แต่ไม่เผื่อแผ่แบ่งปันและไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสีย ๒ ส่วน ดี ๑ ส่วน)
๓. ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุขด้วย เผื่อแผ่แบ่งปันและใช้ทรัพย์นั้นทำความดีด้วย (เสีย ๑ ส่วน ดี ๒ ส่วน)
กลุ่มที่ ๒ หาทรัพย์โดยทางชอบธรรมบ้าง ไม่ชอบธรรมบ้าง
๔. ได้ทรัพย์มาแล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ทั้งไม่เผื่อแผ่แบ่งปัน และไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสีย ๓ ส่วน ดี ๑ ส่วน)
๕. ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข แต่ไม่เผื่อแผ่แบ่งปันและไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสีย ๒ ส่วน ดี ๒ ส่วน)
๖. ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุขด้วย เผื่อแผ่แบ่งปันและใช้ทรัพย์นั้นทำความดีด้วย (เสีย ๑ ส่วน ดี ๓ ส่วน)
กลุ่มที่ ๓ หาทรัพย์โดยทางชอบธรรม
๗. ได้ทรัพย์มาแล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ทั้งไม่เผื่อแผ่แบ่งปัน และไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสีย ๒ ส่วน ดี ๑ ส่วน)
๘. ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข แต่ไม่เผื่อแผ่แบ่งปันและไม่ใช้ทรัพย์นั้นทำความดี (เสีย ๑ ส่วน ดี ๒ ส่วน)
๙.ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุขด้วยเผื่อแผ่แบ่งปันและใช้ทรัพย์นั้นทำความดีด้วย แต่ยังติด ยังมัวเมา หมกมุ่นกินใช้สมบัติ โดยไม่รู้เท่าทันเห็นโทษ ไม่มีปัญญาที่จะทำให้ตนเป็นอิสระเป็นนายเหนือโภคทรัพย์ได้ (เสีย ๑ ส่วน ดี ๓ ส่วน)
พวกพิเศษ ผู้ที่แสวงหาชอบธรรม และใช้อย่างมีสติสัมปชัญญะ มีจิตใจเป็นอิสระ มีลัษณะดังนี้
๑๐.แสวงหาทรัพย์โดยทางชอบธรรม ได้ทรัพย์มาแล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุขเผื่อแผ่แบ่งปัน และใช้ทรัพย์นั้นทำความดี ไม่ลุ่มหลง ไม่หมกมุ่นมัวเมากินใช้ทรัพย์สมบัติโดยรู้เท่าทัน เห็นคุณเห็นโทษ ทางดีทางเสียของมันมีปัญญา ทำตนให้เป็นอิสระหลุดพ้น เป็นนายเหนือโภคทรัพย์
ประเภทที่ ๑๐ นี้ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นผู้เลิศประเสริฐสูงสุดกว่าประเภทอื่น ๆ ควรชมทั้ง ๔ สถานเป็นคฤหัสถ์แบบฉบับที่น่าเคารพนับถือ